
ซีอีโอไมโครซอฟท์ (Microsoft) สตีฟ บอลเมอร์ (Steve Ballmer) แสดงวิสัยทัศน์แก่นักธุรกิจเกาหลีใต้ บอกว่าการลงทุนคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้บริษัทองค์กรธุรกิจผ่านพ้นวิกฤต เศรษฐกิจในยุคนี้ไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่ว่าเศรษฐกิจจะฝืดเคืองจะอย่างไร ไมโครซอฟท์ก็จะไม่ตัดงบการลงทุนลง
"วิธีที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองคือการเติบโต ไม่ใช่การหดตัวเอง" บอลเมอร์กล่าวโดยแนะนำบริษัทซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯว่า ไม่ควรตัดงบประมาณการลงทุนแม้จะมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะวิกฤต ทั่วโลก สำหรับไมโครซอฟท์เอง บอลเมอร์บอกว่าอาจจะมีการปรับให้การลงทุนไม่ขยายตัวตามอัตราที่เคยเป็น แต่จะไม่มีการตัดลดเงินลงทุนอย่างเด็ดขาด
คำพูดของบอลเมอร์สวนทางกับความเชื่อของหลายบริษัท ที่อาจมองว่าควรกอดเงินไว้ก่อนในภาวะเศรษฐกิจขาลงเพื่อให้ตัวเองปลอดภัยมาก ที่สุด สตีฟ บอลเมอร์ไม่ได้บอกว่าการตัดลดเงินลงทุนที่ไม่ควรทำในช่วงเศรษฐกิจขาลงนั้น ครอบคลุมการลอยแพพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายในองค์กรหรือไม่ เพราะขณะนี้ข่าวการเลิกจ้างพนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่นั้นเกิดขึ้นมากมายใน ช่วงเดือนที่ผ่านมา
ยกตัวอย่างเช่น Motorola ที่ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 3,000 ราย Freescale Semiconductor ซึ่งกำลังเตรียมการลดพนักงานอย่างน้อย 2,400 คน ขณะที่ American Express วางแผนปลดพนักงาน 7,000 ตำแหน่ง แม้กระทั่ง Nissan ที่เชื่อว่าจะปรับลดพนักงานลงราว 2,500 ตำแหน่ง
ตาม แนวคิด"ยุคเศรษฐกิจฝืดต้องลงทุน" ไมโครซอฟท์จึงประกาศการร่วมทุนกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้อย่างฮุนได (Hyundai) เปิดศูนย์วิจัยบริการและผลิตภัณฑ์ไอทีสำหรับสร้างแอปพลิเคชันในรถยนต์ โดยบอลเมอร์บอกว่าจะครอบคลุมทั้งแอปพลิเคชันด้านข้อมูลและด้านความบันเทิง โดยฮุนไดคาดว่าเทคโนโลยีจากศูนย์นี้จะสามารถใช้งานจริงในรถยนต์ได้ภายใน ครึ่งปีหลังของปี 2010
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฮุนไดและไมโครซอฟท์ได้เปิดโครงการพัฒนาระบบความบันเทิงภายในรถยุคใหม่ ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงและสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ สะดวกกว่าเดิม โดยฮุนไดกรุ้ปนั้น เป็นผู้ผลิตรถยี่ห้อ Kia Motors ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดเกาหลีใต้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และตลาดโลกราว 5.4 เปอร์เซ็นต์
อีกบริษัทที่มีข่าวเพิ่มการลงทุนเช่นเดียวกับไมโครซอฟท์คืออินเทล ล่าสุดยักษ์ใหญ่อินเทลประกาศตั้งศูนย์วิจัยซอฟต์แวร์ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับรัฐบาลไต้หวันก่อตั้งศูนย์ซอฟต์แวร์ Linux เพื่อให้ผู้ผลิตสัญชาติไต้หวันสามารถผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ เคลื่อนที่สู่ตลาดไต้หวันและตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วิศวกร ของศูนย์นี้จะฝึกอบรมและให้คำปรึกษาผู้ผลิตไต้หวันในการผลิตสินค้าไอที จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้ผู้ผลิตสามารถจัดส่งสินค้าที่ใช้ชิป Atom ของอินเทลและระบบปฏิบัติการลินุกซ์ Moblin ในเน็ตบุ๊กได้เร็วขึ้น โดยความร่วมมือระหว่างอินเทลและไต้หวันยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนอุตสห กรรมการผลิตสินค้าเทคโนโลยี WiMAX ผ่านบริการ VMAX ซึ่งจะเริ่มเนรมิตเครือข่าย WiMAX ที่มีรัศมีทำการคลุมทั้งไต้หวันในครึ่งปีแรกของปี 2009
Company Related Links :
Microsoft
แหล่งที่มา : http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9510000130455
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น